ในคืนที่จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของ ธรา ธนากูล ภรรยาม่ายของ ชาตรี ธนากูล เจ้าของบริษัทธนากูล วายุ ธนากูล ลูกเลี้ยงของธรา ตื่นขึ้นมาพบร่างของ ไกรกูณฑ์ ธนากูล น้องชายที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของธรา นอนจมกองเลือดอยู่ข้าง ๆ ละเวง คู่รักของไกรกูณฑ์เข้ามาเห็นเข้าพอดี ละเวงกล่าวหาวายุว่าเป็นคนฆ่าไกรกูณฑ์เพราะอิจฉาไกรกูณฑ์ วายุตกใจมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะมีหลักฐานคือปืนในมือของวายุ วายุคิดจะไปสารภาพผิดกับธรา แต่ละเวงกลัวว่าธราจะรับไม่ได้จนล้มป่วย จึงแนะนำให้วายุหนีไปตั้งหลักก่อน รถตู้ที่รับจ้างมาพาวายุหลบหนีซมซานมาถึงมาถึงบ้านไร่สายน้ำรีสอร์ทตอนกลางดึก สลิล หลานสาวของ นายแพทย์ภูผา กิจกุศล เจ้าของรีสอร์ทบ้านไร่สายน้ำออกมาต้อนรับวายุ สลิลเปิดบ้านพักให้ชายหนุ่ม เพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว อีกทั้งไฟก็ยังดับทั้งตำบล เกรงว่าชายหนุ่มจะหาที่พักที่อื่นได้ลำบาก วายุมาถึงรีสอร์ทโดยไม่มีสัมภาระติดตัวมาด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงรอยแผลที่พาดยาวจากขมับขวาถึงโคนผมกลางหน้าผากเท่านั้น สลิลแปลกใจที่ท่าทางวายุไม่เหมือนคนที่จะมาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนเลย แต่เธอกลับรู้สึกได้ ถึงความทุกข์และปวดร้าวที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาได้อย่างประหลาด ขณะพักอยู่ที่รีสอร์ท วายุล้มป่วยอย่างหนัก ลุงขาบ คนงานในรีสอร์ทไปพบเข้า จึงรีบตามตัวสลิลไปรักษาจนวายุหายดี เมื่อฟื้นขึ้นมาวายุกลับมีท่าทางปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้าง สลิลรู้สึกสงสารและเห็นใจวายุที่ประสบปัญหาในชีวิตมาอย่างหนัก จึงคิดจะหาทางช่วยเหลือวายุให้พ้นจากความทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ ทแกล้ว เพื่อนชายคนสนิทของสลิล เจ้าของไร่ชาขวัญแก้ว เตือนสลิลไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวายุ แต่สลิลกลับไม่เชื่อฟัง ทแกล้วนั้นแอบรักสลิลอยู่ สลิลเองก็รู้ว่าทแกล้วคิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอเห็นทแกล้วเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น นวลขวัญ พี่สาวของทแกล้วเล่าให้ลูกหว้าฟังว่าที่ไร่วายุกูลข้าง ๆ กันนั้นกำลังจะขายไปทำโรงแรมและบ่อนกาสิโน อีกทั้งเจ้าของไร่นั้นยังโทรศัพท์มาเจรจาให้ขวัญขายไร่ด้วย สลิลกับทแกล้วรู้สึกเสียดายเพราะว่าที่ไร่วายุกูลนั้นยังมีสภาพเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก สลิลขอร้องนวลขวัญไม่ให้ขายไร่ชา นวลขวัญเองก็ตั้งใจไว้เช่นนั้น